วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556:
พระเยซูตรัสว่า “ประชาชนของข้า เมื่อไปงานศพจะเห็นรวมภาพหลายๆ ภาพเกี่ยวกับชีวิตคนนั้น มันเป็นอย่างเดียวกันเมื่อทุกคนต้องผ่านการเตือนสติ จะเป็นเช่นความเจ็บป่วยใกล้เสียชีวิต เราจะเห็นภาพของชีวิตที่ผ่านมาเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง แต่จะดูจากมุมมองของผู้อื่นและมุมมองของข้า ข้าจะให้รู้ว่าอันไรก็ตามเป็นสิทธิ์หรือไม่ถูกต้อง และทุกคนจะได้รับการพิจารณาตามกิจกรรมและกฎหมายของข้า หลังจากตรวจสอบชีวิต จะสามารถจำความผิดที่ยังไม่ได้อภัยโทษเพื่อบอกในการสำนึกผิด ต่อมา จะได้รับการตัดสินเล็กน้อยไปสวรรค์ นรก หรือปุ๊กย้อน ใครๆ ก็จะเยี่ยมชมที่ถูกตัดสิน เพราะต้องทราบว่าที่นั้นมีอยู่จริง และเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง การตรวจสอบชีวิตนี้เกิดขึ้นนอกจากร่างกายและเวลา ทุกคนจะกลับไปยังร่างของตัวเองเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต และขอโทษความผิด ถ้าไม่เปลี่ยนหรือทำให้ดีขึ้น จุดตัดสินเล็กน้อยนี้จะเป็นจุดสุดท้าย การเตือนสติครั้งนี้เป็นการเรียกตื่นของผู้บาปเพื่อเห็นว่าชีวิตกำลังไปทางไหน อาจเป็นโอกาสสุดท้ายในการช่วยรักษาจิตวิญญาณได้ จึงจะทำงานอย่างแข็งขันเพื่อเปลี่ยนใจสมาชิกครอบครัวที่จะยอมรับความพยายามของคุณในเรื่องนี้ ให้สรรเสริญและขอบคุณพระเมตตามหานิธิแห่งการอนุเคราะห์ทุกคนได้มีโอกาสอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือจิตวิญญาณ”
พระเยซูตรัสว่า “ประชาชนของข้า มีผู้ป่วยอยู่มากที่เจ็บจากโรคต่างๆ ให้ใช้โอกาสนี้เพื่อเสียสละความเจ็บปวดแก่ข้าที่จะเป็นการไถ่บาปให้กับจิตวิญญาณในปุ๊กย้อนหรือผู้มีชีวิตอยู่ บางคนไม่รู้ว่าความเจ็บป่วยของตนสามารถใช้เพื่อช่วยเหลือใครได้ เราจึงจำเป็นจะเสียสละความเจ็บปวดทั้งเล็กและใหญ่ให้กับญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่หรือผู้สิ้นชีพไปแล้ว คุณสามารถใช้การร่วมอธิษฐานและพิธีมิสซาเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกันได้ มากมายจิตวิญญาณที่กำลังจะลงนรก สามารถรับความช่วยเหลือจากคำขอนี้ให้พ้นภัยได้ จงต่อสู้อย่างแรงกล้าเพื่อรักษาจิตวิญญาณที่อาจสูญเสียไปถ้าคุณไม่ช่วย”