วันที่ 21 กรกฎาคม ค.ศ. 2012: (นักบุญลอเร็นซ์แห่งบริงดีซี)
พระเยซูตรัสว่า: “ประชาชนของฉัน ประชาชนยิวได้รับสิบปรัศน์จากโมเสส ซึ่งบอกให้พวกเขาไม่เคารพรูปลักษณ์หรือเทพเจ้าอื่น แต่พวกเขาก็ไปเคารพเทพเจ้าอื่นเช่นเบอัล และเพื่อเรื่องนี้ พวกเขาจึงถูกลงโทษในการตกเป็นทาสของบาบิโลน พวกเขาถูกลมหน้าว่ามีผู้ไถ่ผิดให้กับความผิดของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่ยอมรับฉันว่าเป็นพระเมสสิอะห์ แทนนั้น ฉันจึงกลายมาเป็นบรรดาศักย์ที่เสียสละตามคำประกาศของเอซาเยาห์ และฉันตายเพื่อปล่อยให้มนุษย์ได้รับความรู้สึกอิสระ ตอนนี้ที่ฉันถูกนำมาประทานเป็นแกะไม่มีข้อผิดพลาดแล้ว พวกเจ้าจึงได้รับการปลดปล่อยจากบรรดาศักย์ของความผิดของพวกเจ้า ตอนนี้ทั้งชาวเผ่าอื่นและชาวยิวจึงมีโอกาสที่จะถูกช่วยรอด พวกเจ้าต้องมาเห็นฉันว่าเป็นคนละเล่นผู้ขอให้ทรงไล่อภัยความผิดของพวกเจ้า พวกเจ้ายังต้องอนุญาตให้ฉันเป็นพระมหากษัตริย์แห่งชีวิตของพวกเจ้าในการปฏิบัติตามบัญชาของฉัน เมื่อพวกเจ้ารักและเคารพฉัน ฉันจะนำพวกเจ้าถึงทางสู่สวรรค์ พึ่งอยู่กับวิถีแห่งฉัน และเลียนแบบชีวิตของฉัน แล้วพวกเจ้าจะได้รับการช่วยรอด”
พระแม่มารีย์ตรัสว่า: “เด็กๆ ของข้าพเจ้าที่รัก ข้าพเจ้าประหลาดใจที่ทุกคนสามารถมาเข้าร่วมในพิธีสวดคำอวยพรมแห่งความเมตตามหากรรณของข้า และพระยาเยซู ซึ่งเป็นการนำพวกเจ้าไปถึงบุตรชายของข้าพเจ้าที่ชื่อว่า เยซู ดังที่ท่านเห็นได้ พระบุตรและข้าพเจ้าจะอวยพรมให้กับทุกคน และเทวนิยมจะป้องกันศาลาแห่งนี้ ตามคำว่าของข้าเมื่ออยู่ในสถานที่เฉลิมฉลองฟาตีมา ทั้งหมดของสถานที่และบริเวณแหล่งอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของข้าพเจ้าจะเป็นที่พำนักแห่งพระบุตร ซึ่งจะได้รับการป้องกันจากเทวนิยม ข้าทราบว่า ข้าพเจ้าเป็นสถานที่หนีภัยทางจิตวิญญาณของผู้ผิด แต่ในช่วงทุกข์ทรมานที่กำลังมา ในบริเวณแห่งปรากฏการณ์และศาลาของข้าพเจ้าจะมีทั้งสถานที่หลบซ่อนทางกายภาพ ซึ่งจะได้รับการป้องกันจากเทวนิยมของพระบุตร สวดมนต์และเชื่อใจในพระบุตรเยซู ของข้า เพราะเราจะอยู่กับลูกๆ และเราจะป้องกันพวกเจ้ากับอันติคริสต์ เทวดาปีศาจ และคนชั่ว”
เยซูพูดว่า “ประชาชนของฉัน นี่คือภาพที่แสดงถึงการแสดงออกของท่านในเรื่อง ‘จุดที่ยางติดกับถนน’ สถานการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อคนต้องไปทำงานเพื่อจ่ายบิลและใส่อาหารลงโต๊ะ บ้างคนมีชีวิตหนักกว่าคนอื่น ๆ เมื่อพวกเขามีงานที่เป็นแรงงานรุนแรงหรืองานที่ทำให้เกิดความเครียดกับผู้คน หรืองานเอง บางคนถูกจำกัดอยู่ในงานที่จ่ายเงินต่ำ และเรียกร้องว่า ‘คนงานยากจน’ เมื่อมีการส่งงานผลิตภัณฑ์ไปต่างประเทศมากขึ้น คนๆ ก็รู้ดีว่ามีงานทำแล้วเป็นสิริมงคล แต่อันที่จริงก็จำเป็นอย่างไรกับวิธีปฏิบัติกลับของคุณในฐานะคนมีความรักในสถานการณ์ของท่านเอง มั่นใจว่ามียุทธศาสตร์ที่ดีขึ้น คือ มีทัศนคติที่ยกระดับและช่วยเหลือกันอย่างรักใคร่ ไม่ใช่มีทัศนคตินิ่งเย็นและอยู่ในความหวาดกลัวเกี่ยวกับสิ่งสำคัญของชีวิต และดีกว่านั้น คือ จงเชิญฉันเข้ามาในชีวิตทุกวันเพื่อให้ข้าพเจ้าช่วยเหลือด้วยพระกรุณาของข้า ในบางครั้ง ท่านเริ่มโปรเจ็กต์และล้มเลิกโดยตัวของคุณ หัดรู้จักถามความช่วยเหลือจากฉันก่อนที่จะเริ่มงาน และการทำงานจะดีขึ้นกับความช่วยเหลือของข้า ท่านต้องมีศรัทธาในข้าและเชื่อว่าข้าจะนำทางท่านในการช่วยครอบครัวของคุณ ข้ารู้ถึงความจำเป็นของท่านก่อนที่จะถามข้า จึงมาประจวบกับข้าเพราะท่านต้องพึ่งพาข้าทั้งหมด”