คลิฟฟ์กล่าวว่า: “ขอให้ทุกคนที่มาร่วมงานศพและพิธีมิสซาแห่งนี้ ขอบคุณแต่ผู้ใดก็ตาม ที่มาเยี่ยมฉันในวันสุดท้ายของชีวิต ฉันยังอยากขอบคุณสมาคมนักบุญการเมลที่สาม ซึ่งฉันเป็นสมาชิกด้วย ให้กับเกร็กและครอบครัวเขา รวมทั้งผู้ใดก็ตาม ที่ได้ดูแลฉันและพิธีศพนี้ ขอขอบคุณเพื่อนนำสหายของฉันทุกคนที่มาเยี่ยมเช่นกัน คุณจะเห็นฉันอยู่ในสวรรค์กับภรรยาของฉัน มารี่ เราได้กลับมาอีกครั้งด้วยพระเจ้าและนักบุญมารีย์ การมีวิชาญาณของเธอ และความหัวโบร่งที่เล่นง่ายๆ ของเธอนั้น เป็นสัญลักษณ์ให้คุณทราบว่า ฉันได้รับพรรณานุกรมจากพระเจ้าเพื่อไปยังสวรรค์โดยตรง วันสุดท้ายของชีวิตฉันที่ต้องประสบกับความทุกข์เป็นการทำลายกรรมโทษของฉันในโลกนี้ เราจะอยู่ร่วมกันด้วยคำอธิษฐานเพื่อครอบครัวและเพื่อนๆ ของฉัน ดังนั้นจึงเรียกร้องให้พวกเขาเข้ามารับความช่วยเหลือจากการสักการบูชาของเรา เรากำลังรอวันที่จะต้อนรับทุกคนในค่าจ้างนี้ของพระเจ้าเพื่อความภักดีของเรา”
พระเจ้าประกาศว่า: “ประชาชนของฉัน ความสำเร็จของพวกเธอคือการทำให้จำนวนผู้คนที่มาเข้าร่วมพิธีมิสซาทุกวันอาทิตย์เพิ่มขึ้น และกระตุ้นใจด้วยความรักของข้าพเจ้า เพื่อไม่ให่ผู้ใดหลงเหลือนอกไป เมื่อพวกเธอนำสังคมนั้นมอง เราจะเห็นว่ามีคนชราอยู่เป็นส่วนใหญ่ พวกเธอสูญเสียบางคนจากการตายด้วยโรคร้าย แต่จำเป็นที่จะดึงผู้หนุ่มสาวเข้ามาเพื่อแทนที่จำนวนของพวกเขา ให้มีความมุ่งหมายในการทำงานกับเด็กๆ ในครอบครัวและคณะกรรมการของชุมชน เพื่อให่พวกเธออยู่ร่วมกันได้ยาวนานขึ้น การเคลื่อนไหวเพื่อหางานเป็นเหตุให้มีความโดดเดี่ยวไปสู่บริเวณอื่นๆ แต่ผู้ประเสริฐต้องกระตุ้นใจบุตรหลานของพวกเขา เพื่อให่เหมือนกับการเผยแพร่อำนาจศรัทธาของคาทอลิก เมื่อบิดามารดาปฏิบัติตนด้วยความเชื่อที่แข็งกล้า จะเป็นตัวอย่างดีในการกระตุ้นใจบุตรหลานให้อยู่ร่วมกันกับศาสนา แต่ถ้าบิดามารดาไม่มีความเชื่อ หรือเพียงผู้ประเสริฐคนเดียวเท่านั้น เราจึงยากที่จะทำให่ลูกๆ ของพวกเขาอยู่ร่วมกันในศรัทธานี้ ความแปลกประหลาดของโลกและจำนวนนักบวชที่ลดลง ทำให้การหาพิธีมิสซาเป็นเรื่องยาก และเพื่อให่บุตรหลานของพวกเธอมาเข้าร่วมพิธีมิสซาทุกวันอาทิตย์ ด้วยความร้องขอนักบวชและผู้คนที่มีศรัทธามาสู่คณะกรรมการ”